- เพราะลูกค้าคิดว่าธุรกิจควรจะมี – ถามตัวเองสิว่าในทางกลับกันถ้าคุณเป็นลูกค้าของธุรกิจของคุณ คุณคาดว่าธุรกิจนี้ควรจะมีเว็บไซด์หรือไม่ และร้อยละ 99 จะตอบว่ามันควรจะมี
- เพราะถ้าคู่แข่งของคุณมี คุณก็จำเป็นต้องมี ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้ธุรกิจเสียเปรียบทางธุรกิจโดยอาจจะเสียช่องทางการให้ข้อมูล หรือช่องทางการจัดจำหน่าย
- มันเป็นที่ที่จะบอกว่าธุรกิจคุณเป็นอย่างไร – เว็บเป็นที่ที่เจ้าของธุรกิจจะบอกเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการว่าดีอย่างไร มีที่มาอย่างไร มีเรื่องราวอย่างไร หรือถ้าเป็นร้านนวดก็จะบอกว่า นวดดีอย่างไร มีใบประกาศจากสำนักไหน มีประกันให้ลูกค้าหรือไม่ สำหรับร้านอาหารอาจจะพูดถึงสูตรการทำอาหาร ใช้วัตถุดิบดีอย่างไร อร่อยอย่างไร ร้านสะอาดไหม และอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่ารีวิวคนมากินข้าวที่ร้านจะบอกว่ามันแย่อาหารมันกาก แต่เว็บไซต์ของธุรกิจจะเป็นที่เดียวที่เป็นกระบอกเสียงของเจ้าของธุรกิจที่จะบอกเกี่ยวกับธุรกิจของคุณว่ามันดีอย่างไร
4. เพราะคนใชอินเตอร์เน็ตกันเยอะมาก ในปี 2017, 88% ของคนอังกฤษสามารถเข้าถึง internet ได้ และประมาน ครึ่งนึง (48.52%) ของคนอังกฤษ มี Smartphone นั้นหมายถึงถ้าธุรกิจนั้นไม่มีเว็บไซต์ ธุรกิจก็จะเสียโอกาสในการให้คนเล่านี้เข้าถึงสินค้าหรือบริการของเขา เช่น ถ้าถนนถัดไปมีร้านอาหารไทยมาเปิดแล้วคุณไม่ค่อยไปเดินในถนนนั้น คุณจะรู้ไหมว่ามีร้านไทยมาเปิดคำตอบคือไม่ แต่ถ้าอยากกินอาหารไทย Search Google Map เจอ ก็อาจจะเดินไปลองกิน หรือไม่ก็สั่ง Delivery มากิน อันนี้ชัดเจนถ้าไม่มีบนโลกonline คุณก็ขายแต่บนถนนนั้น ไม่ต้องขายถนนข้าง ๆ ดังนั้นการมีเว็บจะช่วยเพิ่มยอดขายให้คุณมากขึ้น
5. เว็บไซต์เปิดให้บริการหรือให้ข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน และ 7 วันต่ออาทิตย์
-
- เว็บไซต์เป็นเหมือนตู้โชว์สินค้า ที่ทำให้ลูกค้าได้รู้จักสินค้าและบริการ ถ้าตู้โชว์สวย สินค้าดี การขายก็จะตามมา ถ้าคุณไม่มีตู้โชว์ที่เรียกว่าเว็บไซต์นี้ ลูกค้าของคุณจะต้องเดินทางไปที่ร้านหรือไม่ก็ต้องโทรไปที่ร้านเพื่อจะรับข้อมูลนั้นสร้างความลำบากให้ทั้งลูกค้า และธุรกิจของคุณ และเสียเปรียบด้านการแข่งขันทางการค้า
-
- เว็บไซต์สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านของการให้ข้อมูล เช่น ถ้าบริษัทคุณทำทัวร์ และต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำ Visa และโปรแกรมทัวร์ การที่มีข้อมูลที่ดีเพียงพอในเว็บไซต์ ลูกค้าสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ ไม่ต้องเสียเวลามาถามว่า โปรแกรมทัวร์เป็นอย่างไร สำหรับเว็บร้านอาหารหรือร้านนวด นั้นหมายถึงลดเวลาสำหรับพนักงานในการตอบคำถามเรื่องเวลาเปิดปิด ราคารการให้บริการนวด รายการอาหาร ราคาอาหาร หน้าตาอาหาร เผ็ดไหม Halan ไหม มีอาหารที่เป็น Vegetable ไหม ร้านอยู่ที่ไหน รับ booking ไหม รับลูกค้าได้กี่คน และอื่น ๆ อีกมากมายที่จะทำให้พนักงานเสียเวลา และพลังงานในการตอบคำถามซ้ำ ๆ นี้ และแน่นอนว่าถ้าโทรไปแล้วไม่มีคนรับสาย หรือคนรับสายพูดไม่รู้เรื่องก็อาจจะทำให้คุณเสียลูกค้าไปได้
6. มันดูเป็นมือโปร และทำให้หน้าเชื่อถือ – สำหรับที่อังกฤษไม่ว่าคุณจะมีอาหารอร่อย หรือนวดดีขนาดไหน คนที่มาติดต่อธุรกิจจะถามว่า คุณมีเว็บไหม หรือ มีอีเมลไหม อีเมลนี้ถ้าให้ของ Yahoo Hotmail หรือ Gmail ไปก็ดูปรกติ แต่มันจะดีว่าและดูโปรกว่า ถ้ามีเว็บไชด์ และมี email ที่ลงท้ายด้านเว็บของตน มันจะแสดงให้เห็นว่าคุณจริงจังกับธุรกิจนี้ และได้สร้างมันขึ้นมาแล้ว
7. เว็บไซต์ยังเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อในการทำการตลาดหรือให้บริการมากขึ้น เช่น การมีระบบสั่งอาหาร Online การมีระบบจองการนวด Online การทำ promotion เพื่อจูงใจลูกค้า การเชื่อมต่อเพื่อทำการตลาดนี้จะทำให้ลูกค้าได้รู้จักบริษัทหรือร้านคุณมากขึ้น
การทำโปรโมชั้นในโลกของ internet ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Google Search ที่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ เพศ อายุ หรือสิ่งที่เขาชอบ หรือ Keyword ที่เกี่ยวข้อง จะทำได้ดีกว่าถ้ามีเว็บ แต่ถ้าไม่มีเว็บไซต์การ Promote บน Google นั้นทำไม่ได้เลย การทำ promotion นี้เหมาะอย่างยิ่งกับธุรกิจที่เปิดใหม่ที่จะทำให้คนแถวนั้นรู้ว่ามีธุระกิจนี้เปิดขึ้นมา
8. เว็บไซต์ทำให้ได้ลูกค้าใหม่ ๆ นั้นสืบเนื่องมาจากพฤติกรรมของคนในปัจจุบันที่จะหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ดูรีวิว ก่อนที่จะไปที่ร้านนั้นจริง ๆ ดังนั้นถ้าธุรกิจมีเว็บไซต์ ธุรกิจนั้นอาจจะได้ลูกค้าใหม่ ๆ จากเว็บไซต์แต่ในทางกลับกัน การที่คนทั่วไปหาเว็บหรือรายระเอียดร้านอาหาร หรือธุรกิจนั้นไม่เจอใน Google ธุรกิจนั้นกำลังเสียโอกาสการได้ลูกค้าใหม่ ๆ
9. การที่มีเว็บที่สามารถนำรีวิวที่ดีของลูกค้าเก่ามาแสดง Testimonial ท่านจะทำให้ลูกค้าใหม่ตัดสินใจชื้อ หรือ ใช้บริการของท่านได้ง่ายขึ้น